พระดังสุพรรณบุรี “หลวงพ่อเนียม” พระอาจารย์ชื่อดังแห่งสุพรรณบุรี
พระดังสุพรรณบุรี “หลวงพ่อเนียม” ถือว่าเป็น พระเกจิอาจารย์ มีชื่อเสียง อันโด่งดัง เป็นที่เลืองลือ และเป็นที่ น่านับถือ โดยผู้คนทั่ว ๆ ไปในด้าน ของปาฎิหาริย์ ของตัวท่าน ในอำเภอบางปลาม้า แห่งจังหวัดสุพรรณบุรี
พระพุทธคุณ ของหลางพ่อเนียม มีมากมาย เป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งในด้าน ของความเมตตา มหาอุต แล้วอายุยืน คงกระพัน ที่เป็นที่ ได้รับการยอมรับ อย่างกว้างขวาง ของชาวสุพรรณ
ทั้งในวงการ ของพระเครื่อง และวงการอื่น ๆ ต้องยอมรับว่า ไม่มีใครที่ ไม่รู้จักจริง ๆเป็นเรื่องราวของ หลวงพ่อเนียมที่ ได้เล่ากัน สืบต่อกันมา จากรุ่นต่อรุ่น อย่างน่าระลึกใจ
ประวัติบ้านเกิดของหลวงพ่อเนียม
หลวงพ่อเนียม เกิดในปี พุทธศักราช 2370 ณ บ้านป่าพฤกษ์ ตำบลตะค่า อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี หลวงพ่อเนียมใน วัยเยาว์นั้น เข้าบรรพชา เป็นสามเณร จนอายุถึง เกณฑ์อุปสมบท ก็อุปสมบท ทันที
ซึ่งสถานที่ อุปสมบทนั้น ยังไม่มีข้อมูล ชัดเจน แต่เป็นไปได้ มากว่าจะ เป็นวัดใกล้ บ้านเกิด ของท่าน หลังจากนั้น ก็ได้ไป ศึกษาพระธรรมวินัย และมูลกัจจายน์ วันมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพมหานคร
และที่วัดระฆัง โฆษิตาราม ในสมัยสมเด็จ พระพุฒาจารย์ มีการคาดคะเน ว่าหลวงพ่อเนียม เคยจำพรรษา และศึกษา หาความรู้ ที่นั่นจน ถึงอายุ 40 ปี
และเดินทาง กลับไปบ้านเกิด และจำพรรษา อยู่วัดเจริญ แต่สุดท้าย ก็เกิดขัด กับเจ้าอาวาส และย้ายไป จำวัดอยู่ วัดน้อย และบูรณปฏิสังขรวัดน้อย เปลี่ยนจาก ที่เป็นวัดร้าง ให้กลายเป็น วัดที่มีชื่อ และเจริญขึ้น
ความสนใจของหลวงพ่อเนียมนั้นไปทางวิปัสสนาธุระ
วิปัสสนาธุระ นั้นเป็นการ ช่วยเหลือ ศิษยานุศิษย์ ในการศึกษา พระธรรมคำสอน ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ และลึกซึ้ง พระดังอยุธยา
ผู้คนมีความ เชื่อกันว่า ท่านมีตาทิพย์ ที่สามารถมอง เห็นเหตุการณ์ ที่จะเกิด ขึ้นได้ และสามารถ มองทะลุ ถึงโรคต่าง ๆ
และรักษา ให้ผู้ที่เข้ามา ขอความช่วยเหลือได้ ถ่ายรูปท่าน ก็มักจะถ่าย ไม่ติด และ ท่านสามารถ รู้ได้เอง โดยไม่ต้อง มีใครมาบอก หากมีใคร ในวัดประพฤติวินัย ไม่เหมาะสม
นิสัยที่แสดงออก มาคือท่าน เป็นคนมีเมตตา ต่อสัตว์ ส่วนกิจวัตร ประจำวัน ของท่านก็คือ ตื่นเช้ามืด ครองวิจรและ ปลงอาบัติ และนั่งสนทนา กับพระภิกษุ ในวัดของ ท่านจนถึง เวลาออกบิณฑบาต กลับมาฉัน ภัตตาหาร ให้อาหาร สัตว์ในวัด
พระดังสุพรรณบุรี ช่วงเวลามรณภาพ ของหลวงพ่อเนียม
ลักษณะการ มรภาพของ หลวงพ่อเนียม นั้นตายใน ท่วงท่าที่มี ความคล้ายคลึง กับพระพุทธ รูปปางไสยาสน์ ซึ่งตามประวัติ แล้วท่านเป็น พระสงฆ์องค์แรก ของประเทศไทย ที่มรภาพด้วย ท่วงท่าแบบนั้
หลวงพ่อเนียม มรภาพในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2450 ซึ่งมีอายุใน 80 ปี อยู่ใน สมณะเพศ 60 ปี ประชุมเพลิงศพ ในเดือนเมษายน พุทธศักราช 2541มีพระพุทธวิถีนายก และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ มาร่วมงาน
วัตถุมงคงจากหลวงพ่อเนียม
วัตถุมงคลของ หลวงพ่อเนียมนั้น มีชื่อเสียง ตามความนับถือ ของผู้คนเลย ซึ่งเมื่อ มีคนนับถือ ท่านเป็น จำนวนมาก ทำให้วัตถุมงคล ของหลวงพ่อเนียม นั้นทั้งไป ทั่วศาสนา โดยเฉพาะ เหล่าผู้ที่ นับถือและสะสม พระเครื่อง
แต่ที่มากไป กว่านั้นคือ คนที่ไม่รู้จัก หลวงพ่อเนียมยัง ต้องเคยได้ยิน ชื่อเสียงวัตถุมงคล จากท่านมาบ้าง ซึ่งสิ่งที่ เรียกว่าของ วิเศษจากท่าน นั้นมีมากมาย ทั้งแคล้วคลาด จากภัยอันตราย
คงกระพัน หนังหนา ฟันแทงไม่เข้า หรือจะเป็น เมตตามหานิยม เพิ่มเสน่ห์ เพิ่มความมั่นใจ และมากกว่านั้น ของวิเศษ ของท่านยัง เป็นการใช้ปรอท ทำให้แข็ง ในประวัติศาสตร์ การสร้างพระเครื่อง หรือของวิเศษ
ในสมัย หลวงพ่อเนียมนั้น เป็นวิธีการทำ ที่ยากพอสมควร ทั้งต้องมี การทำอาคม ร่ายคาถา และต้อง ทำพระใน ฤดูฝนเท่านั้น
เหตุผลก็ มาจากส่วนผสม ที่เอามา ใช้หล่อโครง พระอย่างใบแดงหนู ที่ขึ้นตามท้องนา และส่วนผสมอื่น ๆ ที่มักจะ ขึ้นในฤดูฝน เท่านั้น
อย่างใบสลอต เอาสองอย่างนี้ มาผสมกับ ข้าวสุกและ โขลกปนกัน เพื่อไล่ขี้ปรอท ออกให้หมด เพื่อทำให้ ปรอทที่เหลือ นั้นมีสีที่ขาว ที่สุด สมัครแทงบอล
ท่านต้องโขลกอยู่นานถึง 7 วัน ไม่งั้นปรอทจะไม่เข้ากัน หลังจาก 7 วันก็นำไป ตากแดดให้แห้ง และเอาความชื้นออก ตากเสร็จให้ นำกลับมา กวนต่อให้ เป็นเนื้อเดียวกัน UFABETเว็บตรง
และเริ่มจาก แยกชั่งเป็น ส่วน ๆ ส่วนประมาณ หนึ่งบาท แล้วส่วนหนึ่งบาท นั้นไปผสม กับกำมะถัน และจุนสีโขลก ให้เข้ากัน ซึ่งกระบวนการนี้ ต้องทำใน เวลากลางคืน เท่านั้น และทำติดต่อ กันอีกสามวัน และวิธีอีก เล็กน้อยถึง จะได้ของ วิเศษเหล่านั้น ขึ้นมา